นี่คือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้เมื่อได้ออกเดทกับแฟนชาวต่างชาติที่แปลก ๆ ก่อนที่จะมาแต่งงานกับแฟนชาวแคนาเดียน
ก่อนออกเดทกับแฟนชาวต่างชาติ
การคบหากับแฟนชาวต่างชาติอาจหมายถึงการต้องเดินทางบ่อยๆ แล้วคุณจะจัดการกับค่าใช้จ่ายอย่างไร? คุณไม่สามารถพึ่งพารายได้จากอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียว แม้ว่าเขาจะเอ่ยปากว่าจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบเองก็ตาม – คุณไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีแผนสำรอง
ความคิดเห็นของฉันในการออกเดทกับแฟนชาวต่างชาติ
ฉันได้พบกับแฟนของฉันผ่านการทำงาน เราไม่ได้พบตัวจริงของกันและกันเลยในช่วงสองปีแรกที่เราทำงานร่วมกัน เราทำงานออนไลน์ผ่านอีเมล์, แชทผ่าน Slack หรือแชท ผ่าน Skype
ในที่สุดเราก็ได้พบกัน ซึ่งมันเป็นการพบกันที่เกี่ยวข้องกับงาน แต่ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเรานั่งรถแท็กซี่กลับบ้านจากสนามบินในคืนที่เราพบกัน
ก่อนที่จะได้พบกับแฟนคนปัจจุบัน ฉันได้มีการออกเดทกับชาวต่างชาติสองสามคนที่ฉันพบด้วยตนเองหรือผ่านทางออนไลน์ บทความนี้มาจากประสบการณ์ของฉันในการออกเดทกับชาวต่างชาติ รวมทั้งประสบการณ์จากกลุ่มเพื่อนและจากเพื่อนร่วมงานที่ฉันเคยได้ยินได้ฟังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
7 เรื่องที่ควรรู้ก่อนออกเดทกับแฟนชาวต่างชาติ
ไม่ว่าคุณจะพบกันทางออนไลน์หรือพบเจอด้วยตนเอง – สถานการณ์ในการออกเดทกับแฟนชาวต่างชาตินั้นมักจะมีบางอย่างที่คล้ายกัน ในบทความนี้ฉันจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันได้ประสบมาด้วยตัวเองและจากประสบการณ์ของเพื่อนของฉันในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในการออกเดทกับชาวต่างชาติ
พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์เช่นเดียวกันกับคุณ
อาจเป็นที่สำเนียงการพูด วิธีการที่พวกเขาพยายามหาคำมาสื่อสารแบบกระท่อนกระแท่น หรือการที่พวกเขามักจะมีความโรแมนติกกว่าชายหนุ่มที่เป็นคนในพื้นเพเดียวกัน หากคุณกำลังคบหาอยู่กับแฟนชาวต่างชาติ มันง่ายมากเลยที่คุณจะยกย่องเชิดชูคู่ของคุณไว้บนแท่น เพราะว่าพวกเขามาจากภูมิหลังที่แตกต่างจากคุณโดยสิ้นเชิง และนั่นทำให้พวกเขาน่าสนใจ
แค่จำไว้ว่า พวกเขาก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเช่นเดียวกันกับคุณ จงรักพวกเขาอย่างเสมอภาคและมีใจที่เปิดกว้างสำหรับวิธีการใหม่ในการทำสิ่งต่างๆ และเปิดใจกับสิ่งที่ต้องประสบพบเจอ
เป็นเรื่องง่ายที่ตายตัว
ส่วนใหญ่เมื่อคุณออกเดทกับแฟนชาวต่างชาติ แล้วคุณบอกกับครอบครัวและเพื่อนๆ ของแฟนคุณว่าคุณมาจากไหน พวกเขาจะพยายามอ้างอิงถึงสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเขารู้เกี่ยวกับประเทศของคุณ
ครั้งที่สองที่แฟนชาวแคนาเดียนของฉันมาเที่ยวเมืองไทย พวกเราอาศัยอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชาวต่างชาติเดินทางไปเยือนน้อย เขาสังเกตเห็นว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่หลายคนที่เขาพบเจอตามถนน จะตะโกนทักทายเขาว่า “เฮลโหล” ทำให้เขารู้สึกรำคาญเล็กน้อย ฉันอธิบายให้เขาฟังว่า สำหรับผู้คนเหล่านั้นแล้ว มันเป็นเพียงสิ่งที่พวกเขามักจะทำเมื่อเห็นชาวต่างชาติที่เป็นฝรั่ง โดยเฉพาะกับคนที่ตัวสูงๆ และมีผมสีบลอนด์
ความแตกต่างทางวัฒนธรรมนั่นคือเรื่องจริง
การมาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันทำให้เรามีมุมมองหรือวิธีคิดต่อสิ่งต่างๆ ที่แตกต่างกัน หรือแม้แต่คู่รักที่มาจากวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันก็ยังพบว่าพวกเขาก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน
มันไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของคุณกับแฟนชาวต่างชาตินั้นจะล้มเหลว แต่มันหมายความว่าคุณจำเป็นต้องปรับและเรียนรู้วิธีการคิดต่อสิ่งต่างๆ ของกันและกัน อดทนและอย่าคาดหวังให้คู่ของคุณทำตามที่คุณคาดหวังไว้ว่าเขาจะทำ บางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม – แต่มันเกี่ยวกับการที่คุณทั้งสองคนถูกเลี้ยงดูมาแตกต่างกัน
เพื่อบรรเทาความขัดแย้งกัน พยายามทำความรู้จักกันในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวในวัยเด็ก ความสนใจความใฝ่ฝัน ประสบการณ์ และมุมมองเกี่ยวกับโลก
อย่ากลัวที่จะอ่อนแอ และบางครั้งก็ต้องแกล้งโง่นิดหน่อยเมื่อคุณออกเดทกับแฟนชาวต่างชาติ มันจะช่วยให้คุณเข้าใจคู่ของคุณได้มากขึ้นว่าทำไมพวกเขาจึงเป็นอย่างที่พวกเขาเป็นอยู่
ฉันกับแฟนชาวต่างชาติของฉัน เราแบ่งปันเรื่องราวในวัยเด็กของกันและกันเยอะมาก ซึ่งมันทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น
มันก็เหมือนกับจิ๊กซอร์ แต่ละเรื่องก็คือหนึ่งชิ้นส่วน; ยิ่งเราแบ่งปันประสบการณ์ของเราแก่กันและกันมากเท่าไหร่ ภาพก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น มันจะไม่มีทางสมบูรณ์แบบ แต่การเติมช่องว่างช่วยให้เราเข้าใจซึ่งกันและกัน และมีความอดทนมากขึ้น
อุปสรรคทางด้านภาษา
อีกอุปสรรคหนึ่งในการคบหากับแฟนชาวต่างชาติก็คือ อุปสรรคทางด้านภาษา หากคุณทั้งสองไม่คล่องแคล่วในภาษาต่างประเทศ โอกาสเข้าใจผิดกันย่อมเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องปกติ
คุณคนใดคนหนึงจะต้องเรียนภาษาของอีกคนเพื่อลดความตึงเครียด คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้วลีและคำพูดที่มีประโยชน์มากมาย มันเป็นเรื่องที่ดีในการเรียนรู้ภาษาใหม่ และคู่ของคุณก็จะซาบซึ้งในความพยายามของคุณ
ภาษาประจำชาติของแฟนฉันคือภาษาอังกฤษ ในขณะที่ภาษาของฉันคือภาษาไทย แต่ฉันก็พูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นคุณอาจจะคิดว่าเราทั้งคู่สื่อสารกันได้เป็นอย่างดี แต่เปล่าเลย เรื่องจริงมันกลับไม่เป็นอย่างนั้น
ยังคงมีบางครั้งที่เราเข้าใจผิดกันเพราะวิธีที่ฉันออกเสียงคำหรือการใช้สำนวน บางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวแม้กับเรื่องการออกเสียงหรือการใช้ภาษา มันเป็นเพียงแค่การที่เราคิดแตกต่างกัน
แม้ว่าฉันจะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ฉันถูกอบรมเลี้ยงดูมาแบบไทย ดังนั้นหากแฟนชาวต่างชาติของฉันพูดถึงรายการทีวีในประเทศบ้านเกิดของเขา ฉันก็อาจจะไม่เข้าใจในทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งเหล่านี้และหาวิธีที่จะช่วยให้คุณผ่านมันไปได้เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
และอย่างน้อยคุณก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมใหม่เมื่อคุณออกเดทกับชาวต่างชาติ ใช่ไหมล่ะ?
ปัญหาเรื่องการเดินทาง
การเดินทางจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณเมื่อคุณออกเดทกับแฟนชาวต่างชาติ คุณจะต้องบินไปมาเพื่อเยี่ยมเยือนพบปะกับครอบครัวและเพื่อน ๆ และเข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของกันและกัน ซึ่งก็อาจจะต้องเจอเรื่องท้าทายในการขอวีซ่า
การขอวีซ่านั้นขึ้นอยู่ว่าคุณกำลังจะเดินทางไปประเทศไหน คุณอาจต้องต่ออายุวีซ่าหรือเดินทางออกนอกประเทศทุก ๆ สองสามเดือน เพื่อให้ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศที่แฟนของคุณอยู่ต่อ มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นต่อกันและกันจริง ๆ คุณจะหาทางได้เอง
ในปีแรกที่เขามาอยู่กับฉันที่บ้านของฉันในต่างจังหวัด การต่ออายุวีซ่าทุก 1-2 เดือนก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรของเรา ฉันรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเวลาที่เราต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อมาจัดการธุระเรื่องนี้
ฉันได้เรียนรู้ว่าตราบใดที่คุณทำการค้นคว้าและเตรียมพร้อม คุณก็จะผ่านมันไปได้ด้วยดี!
ความเห็นชอบของครอบครัว
ในบางวัฒนธรรม การออกคบหากับใครสักคนที่มีภูมิหลังแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนั้นเป็นสิ่งที่น่าท้อใจ
เรื่องนี้เป็นเหมือนข้อยกเว้นมากกว่า ไม่ใช่กฎ การหาคู่ที่เป็นชาวต่างชาติเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในทุกวันนี้เนื่องจากมันง่ายมากที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีความคิดเห็นของครอบครัวจะมีผลต่อความสัมพันธ์ของคุณไม่มากก็น้อย แม้ว่าคุณจะมีทางเลือกที่จะออกเดทกับใครก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องดีที่จะตระหนักถึงความเป็นไปได้นี้เนื่องจากครอบครัวของเรามีอิทธิพลเหนือพวกเรา ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม
คุณอาจรู้สึกเหงาบ้างในบางครั้ง
การได้อยู่กับคนที่คุณรักเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อคุณอยู่ในประเทศอื่นที่คุณไม่รู้จักผู้คน ภาษา และวัฒนธรรม มันก็อาจทำให้คุณเหงา(หรือเบื่อ)ได้
คุณบางคนอาจจะมีเครือข่ายของคนรู้จัก เช่น เพื่อน หรือญาติ และคุณอาจจะได้พบปะและทำความรู้จักกับผู้คนแวดวงในชีวิตของแฟนของคุณเป็นครั้งแรกในขณะที่พยายามขยายเครือข่ายของคุณออก
มันเป็นความเป็นจริงของชีวิต เมื่อคุณมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ คุณก็อาจจะต้องออกไปอยู่ห่างไกลบ้านห่างไกลครอบครัวมากกว่าที่คุณอยากให้เป็น
สิ่งนี้อาจเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ของคุณ หากคุณหรือคู่ชีวิตของคุณเป็นโรคโฮมซิค หรือโรคคิดถึงบ้านมากๆ สามารถตัดสินใจเลิกรากันได้ตลอดเวลา
ถ้าคุณจริงจังกับการคบหากับแฟนชาวต่างชาติของคุณจริงๆ คุณจะหาวิธีที่จะทำให้มันเป็นไปได้ และเพื่อบรรเทาความเหงา ให้คุณหาอะไรบางสิ่งบางอย่างทำกับคู่ของคุณ เพื่อช่วยให้คุณหรือแฟนชาวต่างชาติของคุณคลายความคิดถึงบ้านลง
ปรุงอาหารโปรดให้กับเขา ดูภาพยนตร์ในวัยเด็กที่ชื่นชอบด้วยกัน หรือเรียนรู้วลีตลก ๆ สองสามคำในภาษาของเขา เขาจะซาบซึ้งในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณทำให้กับเขา และจะช่วยทำให้เขารู้สึกเหงาน้อยลง
สรุป
อย่าทำผิดพลาด ในการออกเดทกับแฟนชาวต่างชาติ คือการผจญภัยอย่างแท้จริง เนื่องจากพวกคุณมาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมาก – แต่ด้วยการพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้มากขึ้นแม้เพียงสักเล็กน้อย ก็จะไม่มีอุปสรรคทางด้านภาษาใดใดที่จะเข้ามาขัดขวางความสัมพันธ์ของคุณไม่ให้เบ่งบานได้
ฉันหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้แสงสว่างเกี่ยวกับสิ่งที่คุณคาดหวังหลังหมด ‘ช่วงเวลาฮันนีมูน’ ในความสัมพันธ์กับแฟนชาวต่างชาติ หากมีประเด็นไหนที่ฉันพลาดไป คุณสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของคุณในช่องแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ
5 เคล็ดลับในรักษาความสัมพันธ์กับแฟนชาวต่างชาติให้ยั่งยืน
ในโลกปัจจุบันนี้ คุณอาจพบและตกหลุมรักกับใครสักคนที่มาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างจากคุณ ความสัมพันธ์นี้อาจเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
ดังนั้น มันเกิดขึ้นกับคุณด้วยเช่นกัน คุณกำลังคบหาดูใจกับใครบางคนที่มาจากต่างประเทศ หรืออาจจะมาจากต่างทวีปกันเลยก็ได้!
ความคิดนี้อาจดูเกินจะรับมือไหวในบางครั้ง แต่บางทีการมีแฟนต่างชาติอาจเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่คุณเคยมีมาก็ได้ อ่านคำแนะนำดังต่อไปเพื่อเรียนรู้วิธีการรักษาความสัมพันธ์ของคุณกับแฟนชาวต่างชาติให้ราบรื่น
เคล็ดลับ #1: ทิ้งความกลัวไปซะ
การเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ไม่ว่าจะกี่ครั้งมันก็น่าตื่นเต้นมากเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่การเข้าไปเกี่ยวพันกับใครสักคนที่มีต้นกำเนิดแตกต่างจากคุณนั้นมันจะนำคุณไปสู่อีกระดับหนึ่ง! คุณอาจไม่มั่นคงเกี่ยวกับสิ่งนี้ แต่เชื่อฉันเถอะ จริงๆ แล้วคุณไม่จำเป็นต้องกลัวเลย
สิ่งที่คุณต้องทำจริงๆ คือการเปลี่ยนมุมมอง จงมองโอกาสที่พิเศษนี้ทำความรู้จักกับดินแดนใหม่และที่ยังไม่ได้ค้นพบมาก่อนทั้งภายในและภายนอก และจงสนุกกับการทำมัน!
ด้วยวิธีนี้ คุณไม่เพียงแต่จะได้รู้จักคนที่คุณกำลังคบอยู่ แต่คุณยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของพวกเขาด้วย
โปรดจำไว้ว่า: วันนี้จะไม่ย้อนกลับมาอีก ความรู้สึกมหัศจรรย์ของความแปลกใหม่จะหายไปหลังจากเวลาผ่านไปได้สักระยะ ดังนั้นขอให้คุณสนุกกับมันในขณะที่คุณยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
เคล็ดลับ #2: อดทน
คุณอาจจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคนที่มีค่านิยมและความเชื่อที่แตกต่างจากคุณโดยสิ้นเชิง แต่ความแตกต่างในเรื่องบางอย่างนั้นย่อมมีแน่นอน มันอาจจะเป็นเรื่องพื้นๆ อย่างเช่นวิธีที่เราทักทายกันบนท้องถนน หรือวิธีการที่คนคนหนึ่งกล้าทำ และไม่กล้าทำในที่สาธารณะ
กฎเหล่านี้ฝังอยู่ในส่วนก้นบึ้งของจิตใจของเราอย่างลึกซึ้งในขณะที่ราเติบโตขึ้นมา เรานำกฎเหล่านั้นมาใช้ตามที่ได้รับการส่งผ่านและถือเป็นเรื่อง “ปกติ”
แต่สิ่งที่ “ ปกติ” สำหรับคุณอาจไม่ปกติสำหรับคู่ของคุณ โปรดหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดดังต่อไปนี้:“ ในประเทศของฉัน เราทำแบบนี้” หรือ“ ทำไมคุณเป็นคนแบบนั้น…?” โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอาศัยอยู่ในประเทศของแฟนของคุณ
นั่นคือสิ่งห้ามทำเด็ดขาด เพราะในท้ายที่สุดแล้ว คุณคงไม่ต้องการทำร้ายความรู้สึกของคนพิเศษของคุณ ใช่ไหม?
ในความสัมพันธ์ใด ๆ ความเคารพคือกุญแจสำคัญ ดังที่กล่าวไว้ ความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและความคิด หากไม่มีความเคารพต่อความรู้สึกของกันและกัน อาจทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ไปไม่รอด
ดังนั้น จงคำนึงถึงสามสิ่งนี้ไว้เสมอ: ความอดทน, ความอดกลั้น และความเคารพ
เคล็ดลับ #3: เรียนรู้ภาษาของอีกฝ่าย
หากคุณพูดภาษาของแฟนคุณไม่ได้ มันเป็นความคิดที่ดีที่จะเรียนรู้ภาษาของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นภาษาที่แปลกที่คนจำนวนมากพูดไม่ได้
แค่คิดว่า: คุณได้มีโอกาสเจอกับอาจารย์สอนภาษาที่น่ารักและได้ออกไปเที่ยวข้างนอกกับพวกเขาหลังจากจบชั่วโมงเรียน?
หรือคุณจะเรียนหลักสูตรสอนภาษาออนไลน์ก็ได้ และทำให้แฟนของคุณประหลาดในแต่ละวัน ด้วยการพูดสองสามประโยคใหม่ๆ สิ่งนี้สามารถก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ในความสัมพันธ์ของคุณได้
แม้ว่าเรายึดติดกับภาษาอังกฤษ เนื่องจากมันเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ง่ายที่สุด การรู้ภาษาของแฟนของคุณจะทำให้คุณใกล้ชิดพวกเขาและพวกเขาจะรู้สึกมีคุณค่า
แฟนของคุณจะเข้าใจว่าคุณได้พยายามทุ่มเททำสิ่งที่ดีสำหรับเขา และนั่นเป็นการกระทำที่มีค่าสำหรับเขาเสมอ!
เคล็ดลับ #4: เติบโตไปด้วยกัน
ในฐานะคุณทั้งสองคือคนสองคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่ซึ่งทุกอย่างนั้นเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน คุณควรมุ่งเน้นไปที่การให้สิ่งที่ดีที่สุดในตัวคุณแก่คู่ของคุณ และส่วนใหญ่ก็คือวัฒนธรรมของคุณ
ดังนั้น แสดงให้แฟนของคุณเห็นว่า ทำไมวัฒนธรรมของคุณจึงพิเศษและมีคุณค่าสำหรับคุณ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องดนตรีหรือการฟังเพลง หาโอกาสออกไปนั่งฟังเพลงในสถานที่คุณสามารถได้เล่นหรือฟังเพลงจากทั้งสองวัฒนธรรม เพลงที่คุณและเขาเล่นหรือร้องในโอกาสพิเศษ ฯลฯ ทำให้แฟนของคุณเห็นว่าวัฒนธรรมของคุณน่าทึ่งแค่ไหน!
หากคุณเป็นคนที่ชอบดูหนัง ให้เลือกหนังคลาสสิกในประเทศของคุณหรือของแฟนคุณ (พร้อมคำบรรยาย) ลองนึกภาพดูว่าคุณทั้งคู่อาจลงเอยด้วยการใช้เรื่องตลกในหนังที่พวกคุณดูมาเป็นมุขตลกส่วนตัวของคู่คุณได้ในภายหลัง ซึ่งมันจะช่วยให้คุณทั้งสองสนิทกันมากขึ้น
เขาลองรับประทานดูว่ารสชาติของอาหารประจำชาติของคุณเป็นอย่างไร คำแนะนำ: อย่าเลือกทำอาหารที่ต้องใช้ความประณีตมาก – ถ้าคุณทำอะไรที่เรียบง่ายแต่อร่อย คุณจะทำให้แฟนของคุณรู้สึกประทับใจมากขึ้น พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างตามแบบดั้งเดิมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คุณอาจไปค้นหาร้านขายของชำที่มีเครื่องดื่มที่ผลิตจากแหล่งที่มาของคุณขาย ไม่ว่าจะเป็นไวน์หรือเหล้า หรือจะเป็นน้ำผลไม้ก็ได้
เคล็ดลับ #5: เปิดใจให้กว้าง
โดยธรรมชาติแล้ว ความสัมพันธ์จะไม่ได้ผลหรือไม่ราบรื่น หากคุณตัดสินว่าวัฒนธรรม ภาษา ถิ่นกำเนิดของคุณ ฯลฯ นั้นดีกว่าของคนอื่น มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะคิดว่า คนอื่นก็โอเคนะ แต่เราดีที่สุด! แต่มันก็ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะนี่คือวิธีที่เรารักษาภาพลักษณ์ของเราในเชิงบวกและส่งเสริมการเคารพตนเอง
อย่างไรก็ตามในความสัมพันธ์หนึ่ง ความเห็นแก่ตัวเบื้องต้นส่วนใหญ่ที่เราเคยชินควรถูกละวางเอาไว้ เพราะหากคุณต้องการให้ชีวิตคู่ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น คุณต้องไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
เมื่อเราเติบโตขึ้นและเริ่มตระหนักว่าการประนีประนอมนั้นคือทุกอย่างในทุกๆ ความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนๆ หรือคู่ชีวิต การประนีประนอมนั้นคือสิ่งสำคัญ
แน่นอนว่า คุณคุ้นเคยกับการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยวิธีของคุณเองและมันอาจจะเป็นสิ่งดีที่สุดสำหรับคุณในตอนนั้น แต่ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่อกับคนอื่นในตอนนี้ คุณต้องเลิกนิสัยบางอย่างและปรับเปลี่ยนบางอย่าง โดยเฉพาะหากนิสัยหรือการกระทำนั้นๆ มันทำให้แฟนของคุณอึดอัด
ดังนั้น ทำไมต้องฝ่าฟันความยุ่งยากลำบากทั้งหมดในการปรับเปลี่ยน การประนีประนอม และการเรียนรู้วลีที่เหลือเชื่อเหล่านั้นที่คุณไม่สามารถแม้แต่จะออกเสียงให้ถูก? เพราะคุณจะตระหนักได้ว่า ในท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น คุณได้เติบโตขึ้นมาในฐานะบุคคลคนหนึ่ง คุณอาจจะทำหรือลองทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำมาก่อน ในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป
แต่ที่สำคัญที่สุด คุณจะได้เรียนรู้วิธีการเคารพและเห็นคุณค่าในความแตกต่าง เพราะโลกนี้จะเป็นอย่างไรถ้าปราศจากสิ่งนี้?
ฉันชอบชายต่างชาติและนำไปสู่การแต่งงานในอนาคต